
วันนี้ฉันได้พบกับเบิร์ด เขาทำให้ฉันได้เรียนรู้จากการบอกเล่าถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาอย่างน่าอัศจรรย์ ทำให้ฉันรู้สึกมีความภูมิใจในตัวเบิร์ดที่เขาสามารถทำได้สำเร็จ คำที่เขาขอบคุณฉันนับครั้งไม่ถ้วนทำให้ฉันเกิดพลังใจในการที่จะช่วยผู้คนที่กำลังตกอยู่ในความทุกข์ต่อไป
เบิร์ด ชายหนุ่มวัย 30 ปี จัดอยู่ในกลุ่มที่มีรูปร่างหน้าตาดี เคยใช้ยาบ้าติดต่อกันนานประมาณ 15ปีจนมีอาการเครียด นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลลานสกาด้วยอาการนอนไม่หลับ ในช่วงแรกที่รักษาไม่เคยมาตามนัดเลยจะมาเมื่อมีอาการนอนไม่หลับติดต่อกันหลายวัน และจะมาโรงพยาบาลในเวลานอกราชการ จนกระทั่งแพทย์สั่งยาให้วันเดียวและมาพบฉันในวันต่อมา ครั้งแรกที่เจอกันฉันได้ให้ข้อมูลเรื่องสมองที่ถูกยาบ้าทำลาย และผลที่ตามมา ทำให้เบิร์ดเข้าใจโรคที่เขากำลังเป็น เขาพยายามที่จะมาตามนัด แต่แฟนของเขาไม่ยอมรับโรคที่เขาเป็นเขา ทำให้ยิ่งทำให้เขาเครียดมากขึ้น เขาต้องแอบมาโรงพยาบาลเพื่อมาบำบัดรักษาอาการซึมเศร้าโดยอ้างว่าจะไปบ้านแม่ แต่เขาจะมาที่โรงพยาบาลก่อนไปบ้านแม่ซึ่งแฟนของเขาจะโทรตรวจสอบว่าได้กลับบ้านแม่จริงหรือไม่ ในช่วงที่เข้ารับการบำบัด เขาไม่สามารถฝึกสมาธิได้อย่างเปิดเผย เพราะเมื่อฝึกจะโดนแฟนพูดไม่ดี การฝึกจึงไม่ต่อเนื่อง ประกอบกับแฟนไปแอบคบกับผู้ชายอีกคนทำให้เบิร์ดเครียดมากจนต้องกลับมาอยู่บ้านแม่ หลังจากกลับมาอยู่บ้านแม่ก็ได้ฝึกMBTC ได้ต่อเนื่องอาการซึมเศร้าก็ดีขึ้น 1 เดือนต่อมาแฟนขอร้องให้กลับไปคืนดีกัน ขอโทษที่ทำไม่ดีกับเบิร์ด ด้วยความรักที่เบิร์ดมีต่อแฟนซึ่งเป็นรักแรกและรักเดียวจึงทำให้เบิร์ดยอมให้อภัยและกลับไปอยู่ด้วยกันอีก และต่อมาแฟนบอกว่าได้ตั้งท้อง หลังจากได้ยินแฟนบอกว่าท้องเบิร์ดรู้สึกเครียดแต่พยายามไม่แสดงออก เบิร์ดฝึกMBTCมากขึ้นจากวันละครั้งเพิ่มเป็นวันละ2ครั้ง และต้องแอบฝึกในสวน ในห้องน้ำ จนแฟนสงสัยว่าทำไมเข้าห้องน้ำนานมาก เบิร์ดได้แต่ตอบไปว่าท้องผูก เบิร์ดบอกฉันว่าหลังจากฝึกสมาธิในห้องน้ำ ใจสงบลงและมีความคิดบวก คิดว่าไม่ว่าเด็กในท้องจะเป็นลูกของใคร เขาคือผู้บริสุทธิ์ดุจผ้าที่ขาวสะอาด เขาไม่มีความผิดใดๆ เขาจะคิดว่าเด็กคนนั้นคือลูกของเขาจริงๆ เพราะที่เขาอยู่กับแฟนมา9ปี ไม่เคยคุมกำเนิดแต่แฟนก็ไม่เคยตั้งท้อง ถ้าครั้งนี้แฟนไม่ตั้งท้องเขาก็คงไม่มีลูก เขาบอกฉันว่า “ขอบคุณพี่ที่สั่งสอน ให้ความรู้ ฝึกให้ผมคิดได้ด้วยการฝึกสติบำบัด 4 ขั้นตอน แล้วตอนนี้ผมไม่ตกอยู่ในความทุกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ชีวิตผมมีความหวัง ชีวิตผมมีคุณค่าเพราะผมต้องดูแลลูกที่กำลังจะเกิดมาและดูแลแฟนผมให้ดีที่สุด”เขาพูดด้วยเสียงที่สั่น และน้ำตาคลอ เขาก็หัวเราะพร้อมกับเอามือปาดน้ำตาและบอกว่า ที่พี่เห็นน้ำตาผมเนี่ยมันไม่ใช่น้ำตาแห่งความทุกข์นะครับ พี่รู้ไหมมันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ความภูมิใจที่ผมทำได้ พี่เป็นเหมือนอาจารย์ของผมคนหนึ่ง ถ้าผมไม่ได้พบกับพี่ ผมคงไม่มีวันนี้ วันนี้เป็นวันที่ผมได้ปลดปล่อยความทุกข์ที่ขังอยู่ในจิตใต้สำนึกได้หมดแล้ว ฉันชื่นชมในความพยายามและความสำเร็จ และแอบถามทดสอบว่าเขาทำยังไง ทำได้จริงไหมว่า “น้องทำยังไงถึงปลดปล่อยความทุกข์ที่ขังอยู่ในจิตใต้สำนึกได้คะ” เขาตอบด้วยความเชื่อมั่นมากและอธิบายฉันว่า “ผมเข้าใจจิตสำนึกมันคือสิ่งที่ผมสั่งการให้ร่างกายผมทำสิ่งต่างๆได้ และจิตใต้สำนึกคือความคิดที่ผมไม่สามารถควบคุมมัน มันถูกเก็บไว้ในส่วนลึกของใจ ใจไม่ใช่หัวใจนะพี่” แล้วเขาก็หัวเราะ แล้วพูดต่อว่า “ที่ผมจัดการกับมันได้เพราะผมฝึกที่พี่สอนทั้ง4ขั้นตอน นี่ไงครับคำพูดทั้ง5ข้อที่พี่พิมพ์ไว้ที่หลังบัตรนัดผมจำได้แม่น จะให้ผมท่องให้ฟังไหมครับ” พร้อมกับชี้ที่บัตรนัดให้ฉันดู ฉันรีบพูดว่า “ พี่เชื่อค่ะว่าทำฝึกตามที่พี่แนะนำจริง น้องเป็นคนที่มีความพยายามมาก ไม่อับจนหนทางที่จะหาสถานที่ฝึก คงมีไม่กี่คนที่จะทำได้แบบน้อง แล้วในช่วงที่แฟนท้องอารมณ์เขาเป็นอย่างไรบ้าง ” เบิร์ดบอกว่า “อารมณ์ปกติแต่จะมีอาการนอนหลับช้า และนอนสะดุ้งเหมือนตอนที่เขาเครียด ผมจึงให้แฟนนอนหนุนแขนและบอกให้นอนแบบไม่เกร็ง ปล่อยแขนขาตามสบาย และให้หายใจเข้าออกยาวๆช้าๆ รับรู้ว่าลมเข้า-ลมออก ไปเรื่อยๆ ไม่นานเขาก็หลับ ผมให้แฟนทำแบบนี้ทุกคืนโดยไม่พูดคำว่าสมาธิเลย เพราะกลัวจะไม่ทำตามเพราะแฟนไม่ชอบคำว่าสมาธิ” ฉันชื่นชมในความฉลาดของเบิร์ดที่รู้จักแก้ปัญหา รู้ว่าสำคัญที่วิธีการ ส่วนคำที่เรียกนั้นสำคัญไฉน
จิณห์มนัส อัศจรรย์กาญจน์ โรงพยาบาลลานสกา ผู้ถ่ายทอดเรื่องราว