
แสงสว่างแม้เป็นจุดเล็กๆรำไร…เราก็ยังอุ่นใจที่มองเห็น อย่างน้อยมันคือความอบอุ่นที่รออยู่ข้างหน้า เพียงตั้งใจ มุ่งมั่น พยายาม เราก็จะถึงแสงสว่างของชีวิตอีกครั้ง
“ซึมเศร้า” สำหรับบางคนอาจจะผ่านเข้ามาและผ่านไป ในความรู้สึกและความเข้าใจของหลายๆคน “จะเครียดทำไม จะคิดทำไมนักหนา ทำใจให้สบายๆ” สารพัดคำพูดที่ระดังเข้ามา แต่กลไกของชีวิตไม่ได้ง่ายนักหรอกที่จะซ่อมแซมเหมือนอะไหล่รถ เส้นทาง ร่องรอยของการเดินทางมาจนถึงทุกวันนี้แตกต่างกันไปตามบริบท ฉันไม่รู้หรอกว่าฉันเริ่มเป็นซึมเศร้าตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ แต่มามั่นใจเมื่ออายุ40กว่า และเริ่มรักษาโดยตรงกับจิตแพทย์โรงพยาบาลแห่งหนึ่งและเดินทางไปรักษาตามนัด การสนทนาซักถาม การจัดยา ไม่ใช่ทางออกเลย หมดยาก็เหมือนเดิม ฉันเลิกเดินทางเพราะคิดว่าไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง ฉันสอบถามเพื่อนๆเมื่อเจอกันในกลุ่มหลายคนมีอาการเหมือนๆกันและต่างก็พึ่งยาคลายเครียด ฉันตะเวรเดินทางหาหมอตามคลินิกจิตแพทย์ต่างๆเมื่อได้รับคำแนะนำ และมักจะจบด้วยประโยค “ทำใจให้สบาย อย่ากังวล กินยาตามที่จัดให้ และมาตามนัด” ฉันเป็นคนสุขภาพไม่ดีเมื่อต้องกินยาเพิ่มฉันสงสารร่างกายจับใจและยิ่งท้อแท้ สิ้นหวัง ไม่อยากมีวันพรุ่งนี้ ทุกวันที่ตื่นมาฉับพบกับความผิดหวังเสมอ “ทำไมต้องตื่น” ตื่นเพื่อพบเรื่องราวต่างๆของแต่ละวันอย่างซ้ำๆซากๆ และฉันก็เลิกเดินทางเพื่อไปรักษา
มีนาคม 2561 ฉันเจอเพื่อนๆในงานเลี้ยงรุ่น หลายๆคนบ่นว่าเครียด กินยาที่หมอจัดให้ก็ไม่ดีขึ้น หมดยาก็มีอาการ และหลายๆคนต่างพูดปลอบใจ มีเพื่อนคนหนึ่งแนะนำว่า “ลองไปโรงพยาบาลลานสกาสิเขาว่ารักษาดี” ฉันเก็บข้อมูลใหม่และหลายครั้งได้รับการยืนยันว่าดีจริง เมษายนเป็นช่วงปิดเทอมฉันลองไปสำรวจที่โรงพยาบาลลานสกา ไปดูอ่านข้อมูลจากป้ายหน้าห้องแผนกสุขภาพจิต ฉันแจ้งทางโรงพยาบาลลานสกาในวันแรกที่ห้องบัตรว่า “มารักษาโรคซึมเศร้า” เขาส่งฉันให้มาห้อง 180 ฉันรู้สึกแปลกใจที่เขาให้ฉันพบพยาบาลก่อนพบหมอ ทุกครั้งที่ฉันมาโรงพยาบาลได้พูดคุยได้รับการแนะนำการฝึกสมาธิและสติและบันทึกสิ่งที่ได้ ทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจมากขึ้นทุกครั้ง พี่ติ๋วนัดฉันทุก2สัปดาห์พร้อมส่งการบ้านทุกครั้ง ฉันรับรู้ถึงความมุ่งมั่น ความปรารถนาดี และความหวังดีผ่านแววตาทุกครั้ง ฉันยังได้ยินเสียงก้องอยู่ในหูตลอด “พี่ติ๋วตั้งใจช่วยน้องนะ อย่าให้ความตั้งใจสูญเปล่า มันไม่ใช่เหตุบังเอิญนะที่มาพบกัน ช่วยเหลือกัน พี่ต้องช่วยน้องให้ได้ พี่ให้สิทธิ์พิเศษนะ” วันที่มีนัดพี่ติ๋วะมาเช้าเป็นพิเศษประมาณ 07.30 น. เพื่อให้ฉันได้พูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆในทุก2สัปดาห์ ซักถามการจัดการอารมณ์ของฉันเมื่อเกิดเหตุการณ์แย่ๆ และฝึกสามาธิ สติ หัดให้ฉันอยู่กับลมหายใจ สำรวจความรู้สึกทั่วร่างกาย รู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ และการให้อภัยในเรื่องแย่ๆที่ผ่านมา ฉันฝึกแบบนี้ทุกวัน มันก็ขัดใจเล็กน้อยยามฉันขี้เกียจ แต่ฉันก็ฝืนใจฝึกต่อไปๆทุกวันอย่างต่อเนื่องเกือบ3ปีจนฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งยาและยังคงต้องฝึกตลอดไป ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่ฉันสามารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งยา
กิจกรรมกลุ่ม พี่ติ๋วรวมผู้ป่วยที่รักษาทั้งที่ไม่ต้องทานยาแล้ว และที่ยังทานยามาเข้ากลุ่ม มาพูดคุยแชร์ประสบการณ์ ถามความเห็นจากการฟังปัญหาที่มีจากสารพัดทิศ การเล่าประวัติเรื่องราวของฉันยังคงเป็นนิยายน้ำเน่าที่เรียกน้ำตาจากผู้ฟังได้เสมอ เรื่องราวของฉันทำให้คนไข้อื่นๆรู้สึกว่าเรื่องของเขาเล็กไปเลย ฉันเองยังคงต้องมาตามนัดทุก2สัปดาห์เพื่อพูดคุยเล่าประสบการณ์การจัดการอารมณ์แม้ว่าฉันได้รับอนุญาตจากแพทย์ให้หยุดยาแล้วก็ตาม การมาโรงพยาบาลตามนัด การทำตามที่พี่ติ๋วแนะนำ การได้รวมกลุ่มพูดคุยให้กำลังใจกัน การนั่งฝึกสมาธิและสติตามเสียงนำของพี่ติ๋วที่เป็นขั้นตอนมันทำให้ฉันรู้สึกโล่ง เบาสบายอย่างประหลาด ฉันคิดว่าฉันเป็นคนที่โชคดีที่สุดที่ได้รักษากับพี่ติ๋ว ได้รับโอกาสที่ดีที่สุด ฉันเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ฉันจมอยู่กับอดีตที่เหน็บหนาวและมืดมิด ช่วงที่รักษาเหมือนแสงกระพริบเพียงนิดเดียวให้ฉันเดินตามไปจนกระทั่งพบแสงสว่าง ฉันไม่ต้องเหน็บหนาว ไม่ต้องอยู่ในความมืดมิดอีกต่อไป แม้จะมีกระแสลมพัดมาแรงเท่าไหร่ฉันก็ยังคงเห็นแสงสว่าง ฉันมีครอบครัวใหม่อยู่ที่ห้องอรุณอุ่นรักษ์ซึ่งฉันตั้งชื่อขึ้นเอง ฉันไม่รู้สึกว่าการไปโรงพยาบาลตามนัดเป็นอะไรที่น่าเบื่อเหมือนไปโรงพยาบาลอื่นๆแต่กลับรู้สึกว่า ฉันและทุกคนในห้อง180 เรากลับไปเยี่ยมบ้านทุกเดือน ตอนนี้พี่ติ๋วนัดฉันทุกเดือนเพราะฉันเข้มแข็งมากพอ เรากลับพบปะพูดคุยเล่าเรื่องราวต่างๆและช่วยกันเติมน้ำมันให้ตะเกียงของชีวิตได้มีกำลังเดินทางกันต่อ เรามีไลน์กลุ่มที่เหมือนครอบครัว เป็นกำลังใจให้กัน ฉันภูมิใจที่ได้เป็นคนไข้ของพี่ติ๋ว กราบขอบพระคุณที่ดูแลฉันมาอย่างดีจนถึงวันนี้ แม้ใครๆจะบอกว่าโรคซึมเศร้ารักษาไม่หายหรอก แต่วิธีการขั้นตอนทั้งหมดจากพี่ติ๋วจะพาเราเดินไปข้างหน้าอย่างมั่งคงโดยไม่ต้องพึ่งยา